ประวัติ
ในวานเปตรยุคโรมันโบราณมีวันหยุดที่คล้ายกันคือ มาโตรนาเลีย ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงเทพีจูโน เทพีผู้พิทักษ์ ส่วนในยุโรปมีประวัติเกี่ยวกับวันแม่ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น วันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ (Mothering Sunday) ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์ ในสหรัฐอเมริกาได้มีการผลักดันให้มีการฉลองวันแม่ภายหลังสงครามกลางเมืองอเมริกัน โดย จูเลีย วอร์ด ฮาว โดยมีความเชื่อว่าเพศหญิงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างสังคม วันผู้หญิงนานาชาติได้มีการเฉลิมฉลองครั้งแรกเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2452 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน แอนนา ยาร์วิสได้เริ่มผลักดันให้มีการเฉลิมฉลองวันแม่ในสหรัฐอเมริกา
[แก้]วันแม่ในประเทศต่าง ๆ
ประเทศอื่น ๆ ก็มีการกำหนดวันแม่ไว้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ใช้วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ประเทศรัสเซียใช้วันที่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้น ทั้งนี้บางประเทศมีการเฉลิมฉลองในวันสตรีสากล
[แก้]ประเทศญี่ปุ่น
ในญี่ปุ่น ปี 1931 (หรือปีโชวะที่ 6) องค์กร สตรีสูงสุดของญี่ปุ่นได้ตั้ง วันที่ 06 มีนาคม ซึ่งเป็นวันฉลองพระราชสมภพ ของ พระราชินี คาโอรุ มาโคโตะ (Empress Kaoru Makoto) เป็น "วันแม่" ต่อมาในปี 1937 วันที่ 5 พฤษภาคม (หรือปีโชวะที่12 ) และได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อ (ได้รับการสนับสนุนโดยคณะกรรมการกลางให้จัดตั้งวันแม่) ขึ้นใหม่ในปี 1949 (หรือปีโชวะที่24 ) โดยมาจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่สองในเดือนพฤษภาคม ตามประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายๆประเทศ
ทั้งนี้ วันเด็ก 5 พฤษภาคม เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันหยุดแห่งชาติตามกฎหมาย) "เพื่อให้เด็กได้มีความสุขกับครอบครัวและ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อขอบคุณแม่ที่ทำให้เราได้เกิดมาอีกด้วย
ในวันแม่ ปกติประเทศญี่ปุ่นจะให้ดอกคาร์เนชั่นแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่เพียงดอกคาร์เนชั่นเท่านั้น แต่ดอกกุหลาบสีชมพูและดอกเยอบิร่า ก็ให้ได้เช่นกัน
[แก้]ประเทศไทย
- ดูบทความหลักที่ วันแม่แห่งชาติ (ประเทศไทย)
ในประเทศไทย เดิมมีการจัดงานวันแม่ โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 ตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ในคณะรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม[2] ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 12 สิงหาคม ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกับได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แทนวันแม่ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีสีขาว มีกลิ่นหอมและออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก[3]
[แก้]วันแม่นานาชาติ
| ปฏิทินเกรโกเรียน | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ทุกวันที่ | วันที่ | ประเทศ | ||||||||||
วันอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์
|
8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 | |||||||||||
วันอาทิตย์ที่สี่ในฤดูถือบวชเล็นท์
|
22 มีนาคม พ.ศ. 2552
14 มีนาคม พ.ศ. 2553 | |||||||||||
วันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม
|
3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 | |||||||||||
วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม
|
10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 | |||||||||||
วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม
|
31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 | |||||||||||
Second Sunday of June
|
14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
13 มิถุนายน พ.ศ. 2553 | |||||||||||
Last Sunday of June
|
28 มิถุนายน พ.ศ. 2552
27 มิถุนายน พ.ศ. 2553 | |||||||||||
19 สิงหาคม(Pâthâre Prabhu in Southern India)
| ||||||||||||
Second Monday of October
|
12 ตุลาคม พ.ศ. 2552
11 ตุลาคม พ.ศ. 7440 | |||||||||||
Third Sunday of October
|
18 ตุลาคม พ.ศ. 2552
17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 | |||||||||||
Last Sunday of November
|
29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 | |||||||||||
| ปฏิทินฮิจญ์เราะหฺ | ||||||||||||
| ทุกวันที่ | วันที่ | ประเทศ | ||||||||||
| 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552 | ||||||||||||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น